TEAMG ชี้ทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลังปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง เดินหน้าคว้างานใหม่ภาครัฐและเอกชนเพิ่ม มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน หนุนเป้ารายได้ทั้งปีโตไม่ต่ำกว่า 10% พร้อมโชว์งบไตรมาส 2/65 กวาดรายได้รวม 349.36 ล้านบาท กำไรสุทธิ 5.65 ล้านบาทTEAMG ชี้ทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลังปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง เดินหน้าคว้างานใหม่ภาครัฐและเอกชนเพิ่ม มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน หนุนเป้ารายได้ทั้งปีโตไม่ต่ำกว่า 10% พร้อมโชว์งบไตรมาส 2/65 กวาดรายได้รวม 349.36 ล้านบาท กำไรสุทธิ 5.65 ล้านบาท
ดร.อภิชาติ สระมูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEAMG เปิดเผยผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 2 ปี 2565 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2565 บริษัทฯ มีรายได้รวม 349.36 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการขายและให้บริการ 346.38 ล้านบาท และจากรายได้อื่นๆ 2.98 ล้านบาท โดยรายได้จากการขายและให้บริการหลักมาจากการให้บริการงานโครงการภาครัฐ 182 ล้านบาท ลดลงจากโครงการภาครัฐที่มีความล่าช้าในการส่งมอบพื้นที่ อย่างไรก็ตาม รายได้จากโครงการเอกชน 120 ล้านบาท ยังคงเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ และโครงการต่างประเทศ 31.78 ล้านบาท เป็นการรับรู้รายได้ต่อเนื่องตามแผนจากโครงการในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2564 โดยยังคงรับรู้รายได้ต่อเนื่องตามแผนตลอดปี 2565 และมีกำไรสุทธิ 5.65 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ รับรู้ต้นทุนจากโครงการภาครัฐที่เกิดขึ้นจริงเต็มจำนวน ขณะที่ชะลอการรับรู้รายได้โครงการภาครัฐดังกล่าวลง แต่คาดว่าในไตรมาสถัดไปจะสามารถเร่งดำเนินการโครงการดังกล่าวได้ตามแผน และสามารถกลับมารับรู้รายได้เพิ่มขึ้นจนจบปี 2565
ขณะที่ การประมูลงานใหม่ในครึ่งปีแรก บริษัทฯ สามารถคว้างานประมูลโครงการต่างๆ จากภาครัฐ-รัฐวิสาหกิจ และเอกชนตามที่มีสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีขึ้นต่อเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 และการเปิดประเทศอย่างเป็นทางการ สนับสนุนให้งานในมือ (Backlog) ดันทะลุ 4 พันล้านบาท ผลักดันผลงานของบริษัททั้งปีเติบโตตามเป้าหมาย
สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลัง TEAMG ยังคงเดินหน้าประมูลงานใหม่ๆ ทั้งจากโครงการขนาดใหญ่ของทางภาครัฐ และภาคเอกชน รวมถึงการลงทุนเพิ่มในโครงการสาธารณูปโภคต่างๆ เพื่อสร้างรายได้ที่แน่นอน (Recurring Income) อย่างต่อเนื่องมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท โดยเฉพาะงานออกแบบท่าอากาศยาน งานควบคุมงานก่อสร้างรถไฟ ท่าเรือ งานบริหารโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า และงานออกแบบและควบคุมงานก่อสร้างระบบผลิตน้ำประปา
ขณะที่ในไตรมาส 3 บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้จากโครงการติดตั้งและดำเนินการระบบผลิตน้ำประปา เพื่อใช้ในโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ (แห่งใหม่) อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งจะทำให้บริษัทมีรายได้ตลอดอายุสัมปทาน 25 ปี มูลค่าโดยรวมประมาณ 245 ล้านบาท นอกเหนือจากงานวิศวกรรมที่ปรึกษาที่ดำเนินการอยู่เดิม
“ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถเข้าร่วมประมูลโครงการต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่องทั้งโครงการภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน หลังจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะโครงการเมกะโปรเจ็กต์ของภาครัฐที่ทยอยกลับมาดำเนินการต่อ ประกอบกับการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่งเพื่อเพิ่มศักยภาพในการประมูลงานได้เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งบริษัทฯ ยังคงเฟ้นหาการเข้าควบรวมหรือการเข้าซื้อกิจการเกี่ยวกับธุรกิจนวัตกรรม และเทคโนโลยี ซึ่งยังคงมีการเจรจาต่อเนื่อง เพื่อให้ธุรกิจเติบโตแบบก้าวกระโดด และสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งหนุนการสร้างงานมูลค่า Backlog เพิ่มขึ้น โดยในปีนี้บริษัทฯ ยังคงเป้าการเติบโตอยู่ที่ 10%” ดร.อภิชาติ กล่าว