Follow us

TEAM GROUP

Home ผลการดำเนินงาน

ผลการดำเนินงานมิติสังคม

การเคารพสิทธิมนุษยชนและการปฏิบัติต่อแรงงานอย่างเป็นธรรม

 

นโยบายด้านสังคมและสิทธิมนุษยชน

 

บริษัทยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจด้วยความสุจริต โปร่งใส และเป็นธรรม รับผิดชอบต่อลูกค้า เคารพต่อสิทธิมนุษยชน ดูแลรักษาและพัฒนาบุคลากร ใส่ใจต่อสังคมและชุมชน รวมทั้งลดผลกระทบและสร้างผลประโยชน์ให้แก่ชุมชน เพื่อการเติบโตด้วยกันอย่างยั่งยืน จึงกำหนดนโยบายด้านสังคม สิทธิมนุษยชน และการปฏิบัติต่อพนักงาน ดังนี้

1. มุ่งเน้นให้ความสำคัญในเรื่องการดำเนินธุรกิจด้วยความสุจริต โปร่งใส และเป็นธรรม โดยกำหนดนโยบาย กฎระเบียบ ข้อบังคับ ในการดูแลผู้มีส่วนได้เสีย และคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ตามที่ได้ระบุไว้ในนโยบายการกำกับดูแลกิจการที่ดีและจรรยาบรรณธุรกิจ

2. มุ่งเน้นการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า ด้วยการผลิตผลงานที่มีคุณภาพตามมาตรฐานวิชาชีพและตรงตามกำหนดเวลา มีการควบคุมคุณภาพงานตามระบบบริหาร ISO และ QA

3. ส่งเสริมการเคารพต่อสิทธิมนุษยชนและปฏิบัติต่อผู้มีส่วนได้เสียอย่างเสมอภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อบุคลากรขององค์กรซึ่งเป็นรากฐานของการบริหารและการพัฒนาทรัพยากรบุคคลและปฏิบัติต่อกันอย่างเท่าเทียม ไม่แบ่งแยก ไม่เลือกปฏิบัติต่อผู้พิการ บุคคลต่างเชื้อชาติ ศาสนา เพศ ภาษา อายุ สีผิว สถานะทางสังคม วัฒนธรรม และขนบธรรมเนียมประเพณี

4. ปฏิบัติต่อพนักงานด้วยความเป็นธรรมและให้ความสำคัญกับบุคลากร ใส่ใจต่อคุณภาพชีวิตของพนักงาน โดยจัดสรรพนักงานให้ทำงานตรงตามคุณลักษณะ และจัดสวัสดิการต่าง ๆ ให้แก่พนักงาน ทั้งการดูแลสุขภาพพนักงาน รวมทั้ง กำหนดโครงสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสม ผลักดันให้พนักงานมีการพัฒนาเสริมสร้างความรู้ความเชี่ยวชาญของตนเองอยู่เสมอ ส่งเสริมให้พนักงานเข้ารับการฝึกอบรมจากทั้งภายในและภายนอกองค์กร เพื่อพัฒนาความสามารถและเพิ่มทักษะในหน้าที่การงาน ตลอดจนการสร้างกำลังใจและทัศนคติที่ดีในการทำงานให้กับพนักงานทุกระดับ

5. ส่งเสริมการพัฒนาชุมชนหรือสังคม โดยให้ผู้บริหารและพนักงานมีส่วนร่วมในกิจกรรมสาธารณประโยชน์ต่อชุมชนและสังคม ทั้งชุมชนที่องค์กรเกี่ยวข้องและชุมชนอื่น ๆ

 

การปฏิบัติต่อแรงงานอย่างเป็นธรรมตามหลักสิทธิมนุษยชน

บริษัทได้จัดให้มีคณะกรรมการสวัสดิการในสถานประกอบการ ตามมาตรา 96 แห่ง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ 2541 เพื่อปฏิบัติหน้าที่ ดังนี้

1. ร่วมหารือกับผู้บริหาร เพื่อจัดสวัสดิการแก่พนักงาน

2. ให้คำปรึกษาหารือและเสนอแนะความเห็นแก่บริษัทในการจัดสวัสดิการสำหรับพนักงาน

3. ตรวจตรา ควบคุม ดูแล การจัดสวัสดิการที่บริษัทจัดให้แก่พนักงาน

4. เสนอข้อคิดเห็นและแนวทางในการจัดสวัสดิการที่เป็นประโยชน์สำหรับพนักงานต่อคณะกรรมการสวัสดิการและแรงงาน

 

ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงาน

ปี 2566 ได้มีการจ้างงานทั้งหมด 177 อัตรา คิดเป็น 15.58% และไม่มีเหตุการณ์ในการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการใช้แรงงานเด็ก ในส่วนของการจ้างงานคนพิการบริษัทมีการจ้างงานคนพิการ 1 ราย และได้จ่ายเงินสนับสนุนตามกฎหมายกำหนดครบถ้วน

การจ้างงานแบ่งตามเพศ  จำนวน (คน) สัดส่วน
พนักงานหญิง 55 31%
พนักงานชาย 122 69%

 

การจ้างงานแบ่งตามกลุ่มอายุ จำนวน (คน) สัดส่วน
22 – 30 ปี 110 62%
31 – 40 ปี 46 26%
41 – 50 ปี 21 12%

 

การพัฒนาศักยภาพแก่พนักงาน

บริษัทได้พิจารณาบนพื้นฐานข้อมูลด้านกลยุทธ์ของบริษัท ค่านิยม แผนงาน ตำแหน่งงาน ข้อกฎหมายหรือข้อกำหนดและปัญหาที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา เพื่อเสริมสร้างความรู้ความสามารถ ตลอดจนการปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กรและจริยธรรมให้แก่พนักงานทุกระดับ เพื่อสนับสนุนและพัฒนาศักยภาพของพนักงาน อีกทั้ง ตอบสนองความต้องการทางธุรกิจและเตรียมความพร้อมสำหรับการขยายตัวทางธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้วยเหตุนี้ บริษัทจึงพัฒนาทักษะ ความรู้ และขีดความสามารถของพนักงนทุกระดับอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการนำระบบบริหารให้สอดคล้องกับกลยุทธ์และแนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัท โดยเครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนาพนักงานในด้านต่าง ๆ อาทิ การจัดฝึกอบรมภายในองค์การ (In-House Training) การจัดฝึกอบรมภายนอก (Outside Training) การฝึกอบรมในขณะทำงาน (On The Job Training) การดูงานนอกสถานที่ (Site Visit) การเรียนรู้ด้วยตนเอง (Self-Learning) ชุมชนแห่งการเรียนรู้ (Communities of Practice : CoPs) และออนไลน์ผ่านโปรแกรม Microsoft Teams และ Zo0m มากขึ้น แต่ยังคงรูปแบบการจัดอบรมแบบ Classroom สำหรับหลักสูตรเชิงภาคปฏิบัติ โดยในปี 2566 มีการจัดอบรมเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในวิชาชีพ พัฒนาสมรรถะในการทำงน และให้บุคลากรตระหนักถึงความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงาน มีทีมงานและผลงานที่มีคุณภาพ ละนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ในการทำงาน เพื่อลดต้นทุนการดำเนินงาน และการใช้ทรัพยากรน้อยที่สุด พร้อมทั้งแข่งขันกับตลาดภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพสำหรับหลักสูตรอบรมที่บริษัทจัดอบรมให้แก่พนักงาน อาทิ

ประเภทหลักสูตร ตัวอย่างหลักสูตร กลุ่มเป้าหมาย
การเติบโตและพัฒนาสมรรถนะ

– Effective Business Presentation Skill

– Coaching for Higher Performance

พนักงานแต่ละระดับ
ข้อกำหนดของกฎหมาย

– จิตสำนึกการอนุรักษ์พลังงานและการประหยัดพลังงาน

– การป้องกันระงับอัคคีภัยและซ้อมอพยพหนีไฟ

ผู้บริหารและพนักงาน

พัฒนาตนเอง เสริมสร้างความสุข และ Motivation

ในการทำงาน

TEAMG CoPs’ Live

– หัวข้อ “คาร์บอนเครดิต และกลไกการลดก๊าซเรือนกระจก”

– หัวข้อ ” AI Power for TEAMGROUP “

ผู้บริหารและพนักงาน

 

ESG DNA (สนับสนุนโครงการโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย)

– ทำไม “ความยั่งยืน” จึงมีความสำคัญต่อธุรกิจ

– ความยั่งยืนของธุรกิจ คืออะไร

– ทำอย่างไรจึงจะสามารถพัฒนาธุรกิจไปสู่ความยั่งยืน

ผู้บริหารและพนักงาน

 

 

ข้อมูลสถิติจำนวนชั่วโมงฝึกอบรมหรือพัฒนาศักยภาพหรือส่งเสริมความรู้โดยเฉลี่ยของพนักงานต่อปี

ในปี 2566 บริษัทได้สนับสนุนส่งเสริมให้พนักงานและผู้บริหารเข้ารับการอบรมที่จัดโดยหน่วยงานภายในบริษัทและหน่วยงานหรือสถาบันภายนอกอย่างต่อเนื่อง โดยมีพนักงานและผู้บริหารเข้ารับการอบรมจำนวนชั่วโมงโดยเฉลี่ย 24.79 ชั่วโมง ซึ่งเกือบเท่ากับเป้าที่กำหนดไว้ 25 ชั่วโมง/คน/ปี

สถิติจำนวนชั่วโมงฝึกอบรม ปี 2565 ปี 2566
เป้าหมาย (ชั่วโมง/คน/ปี) 25 ชั่วโมง 25 ชั่วโมง
ผลการอบรม (ชั่วโมง/คน/ปี) 21.19 ชั่วโมง 24.79 ชั่วโมง

 

ประโยชน์ที่พนักงานได้รับจากการฝึกอบรมหรือพัฒนาศักยภาพ

นอกจากที่พนักงานจะได้รับความรู้เพื่อพัฒนาตนเองและใช้สำหรับการทำงานแล้ว ยังนำไปพิจารณาประกอบการปรับระดับความชำนาญในสายงาน เพื่อการเติบโตตามเส้นทางอาชีพอีกด้วย

การจูงใจและรักษาพนักงาน

บริษัทมุ่งเน้นการรักษาบุคลากรที่มีฝีมือให้อยู่กับองค์กร จึงได้กำหนดเป้าหมายในการประเมินความผูกพันของบุคลากรต่อองค์กรในปี 2567 ไม่น้อยกว่า 60% และมีแผนในการดำเนินงานเพื่อรักษาบุคลากร ดังนี้

1. กำหนดผลตอบแทนให้เหมาะสมกับตำแหน่งงาน หน้าที่และความรับผิดชอบของบุคลากรภายใต้อัตราค่าจ้างในตลาดแรงงาน

2. จัดกิจกรรมร่วมกันระหว่างผู้บริหารและพนักงาน เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เช่น งานปีใหม่ งานวันเกิดบริษัท เป็นต้น

3. ปรับปรุง/พัฒนาอาคาร สถานที่และ สิ่งแวดล้อมในการทำงานให้ปลอดภัยและถูกสุขลักษณะ และมีบรรยากาศที่ดีในการทำงาน

4. รับฟังความคิดเห็นและข้อร้องเรียนของพนักงานทุกตำแหน่งและทุกระดับ

สุขภาวะและความปลอดภัยในสภาพแวดล้อมการทำงาน

บริษัทให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและอาชีวอนามัยของพนักงานมาโดยตลอด และเพื่อให้พนักงานทุกคนตระหนักถึงการทำงานด้วยความปลอดภัยทั้งต่อตนเอง เพื่อนร่วมงาน ลูกค้า คู่ค้า และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย จึงส่งเสริมให้ผู้บริหารและพนักงานดำเนินการตามนโยบายความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานของบริษัทอย่างเคร่งครัด โดยเปิดเผยนโยบายดังกล่าวไว้ทั้งใน Intranet และบนเว็บไซต์ของบริษัท ภายใต้หัวข้อการพัฒนาอย่างยั่งยืน และส่งเสริมการจัดกิจกรรมเพื่อความปลอดภัยในการทำงาน ดังนี้

กิจกรรม 5 ส

ส่งเสริมให้พนักงานทุกคนสร้างเสริมนิสัยในการ สะสาง-สะดวก-สะอาด-สุขลักษณะ-สร้างนิสัย ซึ่งเป็นกระบวนจัดระเบียบสภาพแวดล้อมในการทำงาน มีแนวปฏิบัติที่เหมาะสมสามารถนำมาใช้เพื่อปรับปรุงแก้ไขงานและรักษาสภาพแวดล้อมในสถานที่ทำงานให้เป็นระเบียบ ถูกสุขลักษณะ เพื่อความสะดวกและปลอดภัยในระหว่างปฏิบัติงาน และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานขององค์กร โดยปี 2566 บริษัทได้จัดกิจกรรมประกวด 5 ส ในแต่ละส่วนงาน เพื่อสร้างแรงจูงใจให้พนักงานร่วมจัดระเบียบสภาพแวดล้อมในการทำงานให้สะอาดและปลอดภัยในการทำงาน

การอบรมพนักงานด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย

โดยบริษัทได้จัดให้มีการอบรมดับเพลิงเบื้องต้น และการฝึกซ้อมอพยพหนีไฟเป็นประจำทุกปี เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจถึงวิธีการดับเพลิง การอพยพหนีไฟ และการปฐมพยาบาลเบื้องต้นตามหลักสากล อีกทั้งเป็นการซ้อมแผนฉุกเฉินป้องกันเหตุดังกล่าว และการระงับอัคคีภัยที่อาจก่อให้เกิดอันตรายทั้งแก่ตนเองและผู้อื่น โดยในปี 2566 บริษัทได้จัดให้มีการอบรมหลักสูตรการป้องกันระงับอัคคีภัยและซ้อมอพยพหนีไฟ ให้กับพนักงานใหม่และตัวแทนของแต่ละส่วนงาน และจัดให้มีการฝึกซ้อมอพยพหนีไฟให้กับผู้บริหารและพนักงานทุกคน เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2566

การลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อไข้หวัดตามฤดูกาล

เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไข้หวัดตามฤดูกาล บริษัทได้จัดหาสถานพยาบาลเพื่อให้บริการวัคซีนป้องกันให้กับพนักงาน ณ สถานที่ของบริษัท เป็นและจัดสวัสดิการส่วนลดค่าบริการฉีดวัคซีนฯ สำหรับสมาชิกในครอบครัวของพนักงาน เป็นประจำทุกปี

นอกจากนี้ บริษัทยังได้สื่อสารไปยังพนักงานของบริษัทที่ปฏิบัติหน้าที่ ณ สถานที่ก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง ให้คำนึงถึงความปลอดภัยในการทำงานเป็นลำดับแรก โดยต้องใช้อุปกรณ์ป้องกันอุบัติเหตุ อาทิ เสื้อนิรภัย และหมวกนิรภัย ที่บริษัทจัดเตรียมไว้ให้ ในขณะปฏิบัติงาน

ในปี 2566 บริษัทไม่พบการเกิดอุบัติเหตุถึงขั้นหยุดงานหรือการเจ็บป่วยจากการทำงานของพนักงาน และในปี 2567 บริษัทมีเป้าหมายด้านการเกิดอุบัติเหตุ ดังนี้

ประเด็น เป้าหมาย ปี 2567
อัตราบาดเจ็บถึงขั้นหยุดงาน 0 กรณี
การเกิดอุบัติเหตุจากการทำงานถึงขั้นเสียชีวิต 0 กรณี

 

การมีส่วนร่วมกับชุมชนและสังคม

บริษัทตระหนักในบทบาทหน้าที่ในการเป็นสมาชิกที่ดีต่อสังคม และมุ่งมั่นในการมีส่วนร่วมสนับสนุนชุมชนโดยรอบพื้นที่อาคารทีม และโครงการที่บริษัทได้เข้าไปทำงาน จึงร่วมกับชุมชนในพื้นที่โครงการเขื่อนขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายก จัดให้มีการศึกษาชุมชนแบบมีส่วนร่วม (PRA : Participatory Rapid Appraisal) เพื่อหาความต้องการของชุมชน จึงได้สรุปผลความต้องการและจัดทำแผนงานในการสนับสนุนการศึกษาให้กับโรงเรียนในจังหวัดนครนายก 4 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนวัดท่าด่าน โรงเรียนวัดวังยายฉิม โรงเรียนวัดท่าชัย และโรงเรียนวัดหุบเมย จังหวัดนครนายก รวมถึงให้การสนับสนุนการศึกษาแก่โรงเรียนในพื้นที่โดยรอบอาคารทีม ได้แก่ โรงเรียนวัดนวลจันทร์ ศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์วัดนวลจันทร์ ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนวัดบุญศรีมุนีกรณ์ และ บ้านเด็กตาบอดผู้พิการซ้ำซ้อน โรงเรียนบ้านเด็กรามอินทรา และได้ดำเนินการกิจกรรมเพื่อสังคม ผ่านโครงการต่าง ๆ อาทิ

  • การฟื้นฟูพื้นที่ป่าชายเลน: บริษัทร่วมกับมูลนิธิกลุ่มทีมรวมใจ และชุมชนในพื้นที่หมู่ ณ ศูนย์อนุรักษ์ป่าชายเลนคลองโคน จังหวัดสมุทรสงครามซึ่งเป็นชุมชนในพื้นที่ที่บริษัทเข้าไปดำเนินโครงการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม ได้ร่วมกันดำเนินการปลูกป่าชายเลนในพื้นที่ โดยได้มีการปลูกต้นโกงกางจำนวน 500 ต้น เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การรักษาสมดุลของระบบนิเวศน์และอนุรักษ์แหล่งเพาะพันธุ์และที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำของชุมชนให้คืนสู่ความอุดมสมบูรณ์ย่างยั่งยืน
  • การจัดตั้งตู้ปันสุข: เพื่อช่วยเหลือ แบ่งเบาภาระประชาชน และกลุ่มผู้อยู่อาศัยซึ่งมีส่วนได้เสีย โดยทำต่อเนื่องเป็นปีที่ 4
  • สนับสนุนทุนการศึกษา: บริษัทร่วมกับมูลนิธิกลุ่มทีมรวมใจ สนับสนุนทุนการศึกษาให้แก่โรงเรียนและนักเรียนที่ทีมกรุ๊ปให้การอุปถัมภ์ ประจำปี 2566 จำนวน 17 แห่ง ในจังหวัดนครสวรรค์ นครนายก และกรุงเทพมหานคร กิจกรรมมอบทุนการศึกษาในครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 32 ซึ่งเป็นจังหวัดที่บริษัทดำเนินโครงการที่ปรึกษา จากการดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 16 ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ ปี 2550 และในปี 2566 บริษัทได้มอบทุนการศึกษาให้กับโรงเรียนในจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดราชบุรี เพื่อสร้างโอกาสที่ดีให้แก่เยาวชนด้านการศึกษา
  • สานต่อกิจกรรมการบริจาคโลหิต: เพื่อส่งเสริมให้พนักงานร่วมทำความดี สานต่อการให้ที่ยิ่งใหญ่มาโดยตลอด ซึ่งดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่่ 32
  • ส่งต่อความรู้จากมืออาชีพสู่สาธารณะ: โดยจัดสัมมนาเชิงสาธารณะ (Public Seminar) ในรูปแบบออนไลน์ โดยนำประเด็นที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญและกำลังเป็นที่สนใจของสังคมในขณะนั้น มาเป็นหัวข้อสัมมนา เพื่อให้ความรู้ในเชิงวิชาการ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ รวมทั้งการหาข้อสรุปในประเด็นคำถามร่วมกัน ตลอดจนร่วมบรรยายความรู้กับองค์กรภายนอกเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ รวมทั้งแลกเปลี่ยนความรู้เพื่อสร้างประโยชน์ให้แก่สังคม เช่น การจัดบรรยายออนไลน์ ให้ความรู้เรื่อง “El Niño Effect on Thailand Weather 2024″ จัดโดย บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เพื่อให้ข้อมูลแก่นักลงทุน และบทสัมภาษณ์หัวข้อ ” “ต้นตออากาศแปรปรวน ตัวป่วนอากาศไทย” ทาง TNN16
  • จัดทำหนังสือเผยแพร่ความรู้: โดยบริษัทรวบรวมองค์ความรู้และแบ่งปันองค์ความรู้ผ่านสื่อสาธารณะ รวมทั้งบริหารจัดการองค์ความรู้ต่าง ๆ อย่างเป็นระบบโดยมีหน่วยงานจัดการองค์ความรู้ (Knowledge Management Unit) ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลโครงการต่าง ๆ และจัดทำหนังสือรวบรวมองค์ความรู้ในประเด็นที่น่าสนใจในขณะนั้นมาเผยแพร่ให้แก่ผู้ที่สนใจ เพื่อให้สามารถนำไปเป็นข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือได้ต่อไป เช่น เคล็ดลับในการทำงานผ่านหนังสือ เคล็ด “ไม่” ลับฉบับทีมกรุ๊ป รับรู้สู้ภัยน้ำ และ Hydropower พลังน้ำกับการผลิตพลังงานไฟฟ้า เป็นต้น
  • โครงการแหล่งเรียนรู้มุ่งสู่วิศวะ: บริษัทจัดกิจกรรมศึกษาแหล่งเรียนรู้มุ่งสู่วิศวกรรมให้กับโรงเรียนนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ ตั้งแต่ ปี 2552 เพื่อแนะนำ แนะแนว และสนับสนุนให้นักเรียนระดับมัธยมปลายที่มีความสนใจต้านวิศวกรรม ได้มีความรู้ความเข้าใจในลักษณะการเรียนการสอน ตลอดจนการทำงานในวิชาชีพด้านวิศวกรรมจากผู้มีประสบการณ์และประกอบอาชีพโดยตรงซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่นักเรียนในการนำไปใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในอนาคต โดยให้ความรู้ แนะแนวด้านวิศกรรมหลากหลายสาขาที่บริษัทชำนาญ และพาไปเยี่ยมชมโครงการที่บริษัทดำเนินงาน อาทิ โครงการระบบรถไฟซานเมือง (สายสีแดง) โครงการขยายกำลังการผลิตโรงกรองน้ำบางเขน โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู เป็นต้น จากกิจกรรมดังกล่าวได้รับความสนใจ และมีนักเรียนที่ตัดสินใจเข้าศึกษาต่อในคณะวิศวกรรมศาสตร์มากขึ้นโดยผลการสอบเข้ามหาวิทยาลัยปี 2566 นักเรียนสอบเข้าคณะวิศวกรรมศาสตร์ได้มากที่สุดเทียบกับคณะอื่น ๆ โดยได้นำวุฒิบัตรจากการดูงานที่บริษัทออกให้ไปแนบกับ portfolio เพื่อยื่นสมัครสอบเข้ามหาวิทยาลัย นอกจากนี้ ปัจจุบัน ยังมีนักเรียนจากโรงเรียนนครสวรรค์ได้เข้ามาทำงานเป็นวิศวกรที่บริษัทอีกด้วย