Follow us

TEAM GROUP

Home ผลการดำเนินงาน

การจัดการความยั่งยืนในมิติสิ่งแวดล้อม

นโยบายการจัดการสิ่งแวดล้อม

  • บริษัทฯ ยึดมั่นในการปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อบังคับ และข้อกำหนดอื่นๆ ด้านสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
  • ส่งเสริมและสนับสนุนการอนุรักษ์พลังงาน มุ่งเน้นการใช้พลังงานทดแทน ตลอดจนการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ
  • ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินงานของบริษัทฯ เพื่อลดผลกระทบจากภาวะโลกร้อน
  • บริษัทฯ และชุมชนบริเวณโดยรอบ ร่วมลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยการบำบัดน้ำเสียให้ได้ตามมาตรฐานน้ำทิ้งที่กำหนด
  • การลดปริมาณขยะที่เกิดขึ้นจากสำนักงาน รวมทั้งมุ่งมั่นในการสร้างจิตสำนึกในเรื่องความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมให้กับบุคลากรทุกระดับเพื่อร่วมกำหนดแนวทางในการดูแลรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม

แนวปฏิบัติ

  • ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎเกณฑ์ และระเบียบปฏิบัติต่างๆ ด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด
  • พัฒนาและปรับปรุงระบบบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมของอาคาร ทั้งการใช้น้ำ พลังงาน การบำบัดน้ำเสีย การลดปริมาณขยะ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
  • รณรงค์ให้พนักงานปฏิบัติตามแนวทางการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ลดการใช้ทรัพยากร ทั้งในส่วนของการใช้น้ำ และพลังงาน รวมถึงลดการสร้างขยะ
  • สนับสนุนกิจกรรมพร้อมสร้างจิตสำนึกแก่พนักงานทุกระดับในการดูแลรักษา อนุรักษ์ และมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
  • บริษัทตระหนักถึงผลกระทบจากภาวะโลกร้อน บริษัทจึงมีเจตจำนงในการดำเนินการและ/หรือร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการลดภาวะการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

การเผยแพร่นโยบายและแนวปฏิบัติ

โดยบริษัทได้เผยแพร่นโยบายและแนวปฏิบัติด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อให้บุคลากรทุกคนในองค์กร (ร้อยละ 100) รับทราบผ่านทางอีเมล และเผยไว้ในระบบ Intranet ของบริษัท ตลอดจนเว็บไซต์ของบริษัท เพื่อให้บุคลากรตลอดจนผู้ทีสนใจเข้าถึงได้โดยง่าย

 

ผลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม

1) การจัดการพลังงาน

ในปี 2566 บริษัทมีปริมาณการใช้ไฟฟ้าจากการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ ซึ่งคำนวณเป็นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในขอบเขตที่ 2 หรือการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมจากการใช้พลังงานไฟฟ้าได้ ดังนี้

อัตราส่วนปริมาณการใช้ไฟฟ้าต่อรายได้รวม(กิโลวัตต์-ชั่วโมง/บาท) ของบริษัทในปี 2566 เท่ากับ 0.073%

 

ในภาพรวมของบริษัท ในช่วงปี 2563-2566 มีแนวโน้มการใช้ไฟฟ้าลดลงเนื่องจากมีการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ และระบบ Smart Chiller ทำให้บริษัทประหยัดการใช้พลังงานลงได้

ในปี 2567บริษัทตั้งเป้าหมายในการลดปริมาณการใช้ไฟฟ้า ดังนี้

• เป้าหมายในการลดปริมาณการใช้ไฟฟ้า 1%

• เป้าหมายการลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าต่อรายได้รวมรวมของบริษัท 1%

 

2) การจัดการทรัพยากรน้ำ

บริษัทตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรน้ำ จึงมีการรณรงค์ให้พนักงานใช้ทรัพยากรน้ำอย่างรู้คุณค่า สร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์น้ำ โดยมีการประชาสัมพันธ์ให้ตรวจสอบการปิดน้ำทุกครั้งเมื่อไม่ใช้อุปกรณ์ และนำอุปกรณ์ในการประหยัดน้ำมาใช้ในอาคาร เช่น ก๊อกน้ำแบบหยุดอัตโนมัติ รวมถึงการตรวจสอบและบํารุงรักษาระบบน้ำประปาให้มีคุณภาพ ไม่มีการรั่วไหล เป็นต้น

         ผลการดำเนินงาน

บริษัทได้เก็บข้อมูลสถิติการใช้น้ำประปาของอาคารทีม ดังนี้

อัตราส่วนปริมาณการใช้น้ำประปาต่อรายได้รวม (ลูกบาศก์เมตร/พันบาท) ของบริษัทในปี 2566 เท่ากับ 1.17%

ในปี 2567 บริษัทตั้งเป้าหมายในการลดการใช้น้ำประปา ดังนี้

• เป้าหมายในการลดปริมาณการใช้น้ำประปา 1%

• เป้าหมายการลดปริมาณการใช้น้ำประปาต่อรายได้รวมของบริษัท 1%

 

 

3) การบริหารจัดการน้ำเสีย

บริษัทกำหนดแนวทางการจัดการระบบบำบัดน้ำเสียทั้งหมดที่เกิดจากกิจกรรมต่างๆ ภายในอาคารทีม โดยใช้ระบบบำบัดน้ำเสียทางชีววิทยาชนิดเติมอากาศแบบมีตัวกลางยึดเกาะ (Fixed Film Aeration System)  ขนาด 100 ลบ.ม./วัน เพื่อบำบัดน้ำเสียให้มีคุณภาพน้ำทิ้งตามเกณฑ์มาตรฐานการควบคุมการระบายน้ำทิ้งจากอาคาร ตามประกาศของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก่อนจะปล่อยเข้าสู่ระบบระบายน้ำสาธารณะ

 

         ผลการดำเนินงาน

บริษัท มีการตรวจวัดน้ำเสีย บันทึกและจัดทำรายงาน และทำการดูแลซ่อมบำรุงอุปกรณ์ในระบบบำบัดน้ำเสียต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพ และมีการตรวจสอบคุณภาพน้ำทิ้งให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานอย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้ หากผลการตรวจวัดคุณภาพน้ำทิ้งไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน บริษัทจะต้องดำเนินการแก้ไขคุณภาพน้ำทิ้งให้ผ่านเกณฑ์ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ก่อนปล่อยน้ำทิ้งลงระบบระบายน้ำสาธารณะ โดยในปี 2566 บริษัทมีปริมาณน้ำเข้าสู่ระบบบำบัดน้ำเสีย ดังนี้

 

4) การจัดการขยะของเสีย และมลพิษ

บริษัทให้ความสำคัญกับการลดขยะ และนำขยะกลับมาใช้ใหม่ ตามแนวทาง 3R  Reduce  Reuse  Recycle โดยเฉพาะสำหรับกระดาษเสียที่เกิดจากการจัดทำรายงาน มีการรณรงค์ให้นำกลับมาใช้พิมพ์และถ่ายเอกสารส่วนด้านหลังที่ยังใช้ได้ และหลังจากนำมาใช้ประโยชน์ทุกด้านแล้ว จะมีการรวบรวมเพื่อส่งขายเป็นวัสดุรีไซเคิลต่อไป นอกจากนั้น บริษัทมีการประชาสัมพันธ์รณรงค์การใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก และคัดแยกขยะที่เป็นขวดพลาสติกเพื่อนำไป Recycle  รวมทั้งการเลือกใช้อุปกรณ์สำนักงานที่มีคุณภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

 

บริษัทมีนโยบายเปลี่ยนมาจัดเก็บเอกสารในรูปแบบดิจิทัล และจัดส่งทางอีเมล เพื่อมุ่งสู่การทำงานแบบ  Paperless ลดปริมาณการใช้กระดาษลง เช่น เอกสารวาระการประชุมคณะกรรมการต่างๆ แบบประเมินพนักงาน เป็นต้น นอกจากนั้นยังนำระบบบริหารจัดการเอกสารมาใช้ในทุกโครงการที่เป็นการบริหารและควบคุมงานก่อสร้าง ลดการใช้เอกสารเวียนภายในบริษัท ทั้งเอกสารทางด้านบัญชีและการเงิน รวมทั้งเอกสารด้านการจัดซื้อจัดจ้าง เป็นต้น

 

แผนงานข้างต้นถือเป็นภารกิจหลักอย่างหนึ่งของบริษัทที่กำหนดให้กรรมการ ผู้บริหารและพนักงานปฏิบัติตามแนวทางการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและรักษาสิ่งแวดล้อม ระมัดระวัง ไม่ให้การดำเนินกิจการเกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในบริเวณชุมชนใกล้เคียงหรือให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด

 

         ผลการดำเนินงาน

ปี 2566 มีปริมาณขยะในองค์กร 129 ตัน และอัตราส่วนปริมาณขยะภายในองค์กรต่อรายได้รวมของบริษัท (กิโลกรัม/รายได้พันบาท) ในปี 2566 เท่ากับ 7.65%

ในปี 2567 บริษัทตั้งเป้าหมายในการลดขยะภายในองค์กร ดังนี้

• เป้าหมายในการลดปริมาณขยะภายในองค์กร 2%

• เป้าหมายการลดขยะภายในองค์กรต่อรายได้รวมของบริษัท 2%

 

5) การจัดการมลพิษทางอากาศ

สำหรับพื้นที่ที่กำลังก่อสร้าง เพื่อป้องกันและลดผลกระทบของฝุ่นละอองจากยานพาหนะและกระบวนการก่อสร้าง บริษัทฯ ซึ่งเป็นผู้ควบคุมงานก่อสร้าง และผู้รับเหมาก่อสร้าง ได้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมคุณภาพอากาศตามข้อกำหนด โดยมีการฉีดพ่นละอองน้ำ ทำความสะอาดถนน ตรวจสอบการบรรทุกน้ำหนักของยานพาหนะขนส่งวัสดุ รวมทั้งจัดให้มีการควบคุมการทำงานของเครื่องจักรที่ส่งเสียงดัง และกำหนดเวลาการทำงานที่ไม่รบกวนชุมชนใกล้เคียง

การเฝ้าระวังคุณภาพอากาศและเสียงรบกวน ทำโดยการตรวจวัดและบันทึกค่ามลพิษในอากาศอย่างสม่ำเสมอ โดยเน้นที่ค่าฝุ่นละออง คาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO₂) ไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO₂)

ผลการควบคุมและเฝ้าระวังด้านมลพิษและของเสียในโครงการก่อสร้าง

ประเด็น

เป้าหมายในการตรวจวัด

ผลการดำเนินงานปี 2566

การปล่อยก๊าซมลพิษ

คาร์บอนมอนอกไซด์ (CO)

ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO₂)

ไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO₂)

– ไม่เกินค่ามาตรฐานตามประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ

 

– (CO < 30 ppm, SO₂ < 0.30 ppm และ NO₂ < 0.17 ppm)

 

ต่ำกว่าค่ามาตรฐาน

 

 

 

 

ผลการควบคุมการปล่อยมลพิษจากการก่อสร้างอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ทั้งหมด แสดงถึงความรับผิดชอบในการปฏิบัติตามมาตรการสิ่งแวดล้อมเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของชุมชนใกล้เคียงของบริษัทฯ

 

 

5) การจัดการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

บริษัทตระหนักถึงผลกระทบโลกร้อนและสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงรุนแรงจากก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการดำเนินธุรกิจทั้งทางตรงและทางอ้อม  ในปี 2566 บริษัทได้รวบรวมข้อมูลและคำนวณปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กรโดยใช้แนวทางการประเมินคาร์บอนฟุตปริ้นท์ขององค์บริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • ก๊าซเรือนกระจกโดยตรง (Scope 1) เกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงต่างๆ ของบริษัท เช่น น้ำมันดีเซล น้ำมันเบนซิน การรั่วซึมของสารทำความเย็น และการรั่วไหลของมีเทน (CH4) จากระบบ Septic tank
  • ก๊าซเรือนกระจกทางอ้อม (Scope 2) เกิดจากการใช้พลังงานไฟฟ้าโดยบริษัท ดังรายละเอียดในหัวข้อ “การจัดการพลังงาน”
  • ก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมอื่นๆ (Scope 3) เกิดจากการใช้กระดาษ การใช้น้ำประปา และเดินทางทางอากาศของพนักงาน และปริมาณการใช้ขยะ

 

บริษัทกำหนดแนวทางในการลดก๊าซเรือนกระจก โดยเน้นการลดการใช้พลังงานไฟฟ้าตามรายละเอียดในหัวข้อ “การจัดการพลังงาน” และลดการใช้ทรัพยากร วัสดุสิ้นเปลืองต่างๆ ทั้งกระดาษ ขวดและถุงพลาสติก นำวัสดุกลับมาใช้ใหม่ นำนโยบาย Paperless มาใช้ในกระบวนการทำงานต่างๆ ทั้งการใช้เอกสารดิจิทัลในการประชุมคณะกรรมการต่างๆ ลดการใช้เอกสารเวียนภายในบริษัท เช่น เอกสารทางด้านบัญชีและการเงิน เอกสารด้านการจัดซื้อจัดจ้าง เป็นต้น

 

ผลการดำเนินงาน

ในปี 2566 บริษัทมีปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

*สำหรับข้อมูล การปล่อยก๊าซเรือนกระจกของบริษัท ใน ปี 2566 ได้รับการทวนสอบโดยบริษัท เอสจีเอส (ประเทศไทย) จำกัด และอยู่ระหว่างการขึ้นทะเบียนคาร์บอนฟุตปริ้นท์ขององค์การบริหาร จัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ในรอบการพิจารณาที่ 3 ของปี 2567

 

อัตราส่วนปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อรายได้รวมของบริษัท (ตันคาร์บอนไดออกไซต์เทียบเท่า/พันบาท) ในปี 2566 เท่ากับ 0.081%

ในปี 2567 บริษัทตั้งเป้าหมายในการลดการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ดังนี้

• เป้าหมายในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 2%

• เป้าหมายการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อรายได้รวมของบริษัท 2%

Scope

แนวทาง

Scope 1

 

  การใช้น้ำมันดีเซลรถยนต์ในองค์กร

 

  การใช้สารเติมเครื่องปรับอากาศ

 

  ค่า BOD จาก Septic Tank      

เปลี่ยนรถยนต์ในองค์กรเป็นรถ Hybrid บางส่วน

จัดแผนดำเนินการเปลี่ยนแอร์รุ่นใหม่ทดแทนแอร์เก่า

กำหนดเกณฑ์ WFH/Online meeting

Scope 2

 

การใช้ไฟฟ้าในอาคาร      

ลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าขององค์กรลง 1 %

Scope 3

 

  การใช้กระดาษ    

 

  การโดยสารเครื่องบินโดยพนักงาน    

 

  การใช้น้ำประปา      

 

 

  ปริมาณขยะในองค์กร

รณรงค์การทำงาน Paperless/Reuse

 

เลือกสายการบินที่ปล่อยก๊าซ CO2 ต่ำ

 

รณรงค์การประหยัดน้ำในองค์กร

 

รณรงค์การนำขยะกลับมาใช้ใหม่ตามแนวทาง 3R  Reduce  Reuse  Recycle

นอกจากนี้ บริษัทกำหนดเป้าหมายที่จะเข้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี ค.ศ. 2050 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี ค.ศ. 2065 ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศไทย